มารู้จัก 4 ข้อดี ดี ในการบริจาคเลือดกันเถอะ .....

1 ทำให้สุขภาพแข็งแรง
              การบริจาคเลือดจะทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นได้อย่างไร ในเมื่อเอาเลือดออกจากจากตัว?

                เลือดที่บริจาคออกไปเป็นเลือดส่วนเกินของร่างกายหรือประมาณ 7% ของปริมาณเลือดทั้งหมดในร่างกาย โดยก่อนจะทำการบริจาคจะมีการพิจารณาจากน้ำหนักตัวของผู้ให้บริจาคก่อน ดังนั้นเลือดที่เสียไปจะไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ตรงกันข้ามกลับกระตุ้นให้ไขกระดูกผลิตเม็ดเลือดใหม่ขึ้นมาแทน ระบบไหลเวียนของเลือดจะดีขึ้น ทำให้ร่างกายแข็งแรง  แต่การบริจาคเลือดเสร็จร่างกายจะไม่ได้แข็งแรงขึ้นในทันทีถึงขนาดออกไปทำกิจกรรได้เลย ดังนั้นเมื่อทำการบริจาคเลือดแล้ว ผู้ให้บริจาคควรนั่งพักและทานของว่างเพื่อให้ร่างกายได้ปรับสภาพน้ำในร่างกายก่อน

2 หุ่นดี เพรียวลม ผิวเปล่งปลั่ง

                ไม่ต้องกินวิตามิน แค่บริจาคเลือดก็ทำให้ผิวเปล่งปลั่งได้จริงหรือ ?

                จริง เพราะการบริจาคเลือดจะเป็นการทำให้ร่างกายผลิตเลือดใหม่ขึ้นมาและมีการไหลเวียนของเลือดดีขึ้น จึงช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล และยังช่วยให้หน้าใสขึ้นด้วย
               

3 ลดความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งได้
                จากการศึกษาข้อมูลของ สถาบันคาโรลินสกา สตอคโฮล์ม สวีเดน พบว่าผู้บริจาคเลือดสวีเดนและเดนมาร์ค ที่ทำการบริจาคเลือดจะช่วยลดความเสี่ยงจากมะเร็งได้หลายชนิด เช่น มะเร็งตับ มะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งกระเพาะอาหาร ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีข้อมูลเพิ่มเติมว่าในรายที่มีธาตุเหล็กในร่างกายมากเกินไป มีผลต่อการเกิดโรคเส้นเลือดหัวใจอุดตันหรือมะเร็งบางชนิด การบริจาคเลือดจะช่วยลดปริมาณธาตุเหล็กส่วนเกินเหล่านั้นออกไปได้
                 ซึ่งถ้าเรายิ่งบริจาคเลือดบ่อยเท่าไหร่ ความเสี่ยงโรคมะเร็งจะลดลงมากขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะในเพศชาย โดยความถี่ของการบริจาคเลือดระบุไว้ว่า เพศชายสามารถบริจาคได้ทุก 3 เดือน และเพศหญิงทุก 6 เดือน

4 มีสิทธิพิเศษสำหรับผู้บริจาคเลือด
               ผู้บริจาคเลือดยังได้สิทธิพิเศษในเรื่องการรักษาพยาบาล ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องที่หลาย ๆ คนยังไม่รู้
              1. ผู้บริจาคเลือด 7 ครั้งขึ้นไป สามารถขอใช้สิทธิ์ช่วยเหลือค่าห้องพิเศษและค่าอาหารพิเศษได้ไม่เกินร้อยละ50
              2. ผู้บริจาคเลือด 9 ครั้งขึ้นไป สามารถขอใช้สิทธิ์ตรวจวิเคราะห์สารเคมีในโลหิตได้ เชน ตรวจหาน้ำตาล ไขมัน การทำงานของตับ การทำงานของไต เป็นต้น
              3. ผู้บริจาคเลือด 16 ครั้งขึ้นไป สามารถขอใช้สิทธิ์ช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล+ ค่าห้องพิเศษและค่าอาหาร ได้ร้อยละ 50
              4. ผู้บริจาคเลือด 24 ครั้งขึ้นไป สามารถขอใช้สิทธิ์ช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล100% + ค่าห้องพิเศษและค่าอาหาร ได้ร้อยละ 50
              5. ผู้บริจาคเลือด 100 ครั้งขึ้นไป สามารถขอใช้สิทธิ์ "ขอพระราชทานเพลิงศพ" ได้เป็นกรณีพิเศษ

                ดังนั้น การบริจาคเลือด ไม่เพียงแค่เป็นการให้แต่ผู้บริจาคยังเป็นผู้ได้รับประโยชน์ดี ดี ด้วยเช่นกัน